Travel in US Part 1 :: ขอ VISA USA ก่อนเดินทางสู่อเมริกาาา

ฮัลโหลวววว เดือนนี้กบไปเที่ยวเมกามา เพราะว่าคุณแฟนรับปริญญาค่า ก็เลยไปงาน แถมเที่ยวไปด้วย อิอิ เที่ยวยาว 17 วันเลย ก่อนอื่นก็ต้องมาคุยถึงเตรียมตัวไปเมกากันค่ะ 


อเมริกาเป็นประเทศที่ต้องขอวีซ่า คือถ้าไม่ขอก็อดเข้าเลยค่ะ
กบขอวีซ่าชั่วคราวประเภท B1/B2 คือเป็นทั้งวีซ่าท่องเที่ยวและสำหรับธุรกิจ เผื่ออนาคตได้ไปทำงานที่นู่น 555

ราคาสำหรับการขอวีซ่าอยู่ที่ 160 ดอลล่าร์สหรัฐ ตอนช่วงที่กบจองสัมภาษณ์คิดเป็นเงินไทย 5440 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 34 บาทต่อ 1 ดอล)
ถือว่าราคาแพงตั้งแต่เริ่มต้นเลย แต่วีซ่าของเมกาคือขอครั้งเดียวอยู่ได้ 10 ปีเลยค่ะ ก็คุ้มอยู่นะคะ ถ้าไปเที่ยวหลายครั้ง
จริงๆ ที่ไปมา ก็รู้สึกว่าอยากไปอีกค่ะ เมกาใหญ่มาก จนที่ไปเที่ยวมาเป็นแค่ส่วนน้อยมากๆ นี่คิดไว้ว่า ภายในสิบปี ต้องเก็บเงินแล้วไปให้ได้อีกรอบเลยละค่ะ ฮึบ! ใครมีงานจ้างได้เลยนะคะ ฮ่าๆๆ 

ขอวีซ่าเมกา ไม่ต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อนนาจา ไปขอให้ได้ก่อน แล้วค่อยจองตั๋วค่ะ

ขั้นตอนการขอวีซ่า ไม่ยากอย่างที่คิด เริ่มกันเลยค่ะ
1. กรอกแบบฟอร์มสมัครวีซ่า หรือเรียกว่า DS-160 โดยเข้าเวบ ceac.state.gov/genniv 

เริ่มแรกเลยเค้าจะมีให้ใส่สถานที่ที่เราไปยื่นคำร้องขอวีซ่า ที่ไทยมีที่กรุงเทพ กับเชียงใหม่ หลังจากนั้นจะได้หมายเลข AAXXXXXXXX ถ้าเรากรอกไม่เสร็จในครั้งเดียว เราสามารถจำรหัสของตัวเอง แล้วมาอัพเดทข้อมูลได้เรื่อยๆ จนกว่าเราจะ Submit ข้อมูลค่ะ

ฟอร์มจะมีให้กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลต่างๆ ที่จะไปที่เมกาค่ะ เช่น พักที่ไหน พักกับใคร มีใครเป็นสปอนเซอร์ให้หรือเปล่า รวมถึงพวกข้อมูลความปลอดภัยต่างๆ 

>> กบดูตามพันทิพนี้ https://www.pantip.com/topic/35021980 ละเอียดมากๆ ขอบคุณ จขกท. นะคะ 

DS-160 จะมีให้ใส่รูป เป็นรูปหน้าตรง เห็นหู พื้นหลังสีขาวเท่านั้นนะคะ ขนาดจตุรัส 600x600 หรือ 1200x1200 pixel
จะไปถ่ายที่ร้าน หรือถ่ายเองแล้วไปปริ้นเอาก็ได้ค่ะ ขนาด 2x2 นิ้ว

กบถ่ายเอง ทำรูปเองไปปริ้นที่ร้าน อันนี้แนะนำร้าน Master 2 บาทเอง ปริ้นใบเดียวก็ได้ ถูกมากกก แถมตัดให้ด้วยค่ะ ประทับใจการบริการ 💓

หลังจากกรอกรายละเอียดในเวบ และใส่รูปเรียบร้อย ก็ไปจองสัมภาษณ์กันเลยค่า

2. จองสัมภาษณ์ขอวีซ่า เข้าเวบ www.ustraveldocs.com/th_th/
กรอกข้อมูลและเลือกประเภทวีซ่าที่ต้องการขอ หลังจากนั้นจะได้ใบชำระค่าธรรมเนียม ให้จ่ายที่เค้าเตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเท่านั้นจ้า 

หน้าเวบจะมีแจ้งว่าตอนนี้คิวที่เร็วที่สุดในการเข้าสัมภาษณ์เป็นวันที่เท่าไหร่ ก็ควรจองแต่เนิ่นๆนะ ตอนกบจอง กบจองช่วง 12 มีนาคม 2562 คือ ตอนแรกข้างๆมันเขียนว่า ได้คิววันที่ 17 เมษายน 2562 คือเดือนนึง กบจะเดินทางวันที่ 3 พฤษภา นี่ไม่กล้าจองตั๋วเครื่องบินเลยอ่ะ กลัววีซ่าไม่ผ่าน 
พอจ่ายเงินแล้วใช้เวลา 1 วันในการอัพเดทข้อมูลในเวบ อีกวันนึงเข้ามาเวบก็จองได้เลย และโชคดีคือ มีวันที่่ใกล้ๆ ในการยื่นขอวีซ่าวันที่ 20 มีนาคม 2562 จองเลยย กบเลือกเวลาเช้าค่ะ ประมาณ 9:40 น.

หลังจากจองวันเวลาเสร็จ ก็ถึงขั้นเตรียมเอกสาร
1. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว (ถ้าเอาไปผิด ในสถานทูตมีตู้ให้ถ่ายรูปอยู่ค่ะ)
2. ใบเสร็จชำระเงินจ่ายค่าสัมภาษณ์วีซ่า
3. ใบยืนยันนัดสัมภาษณ์
4. ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160
5. หลักฐานแสดงรายได้ พวกสมุดบัญชี, Statement ย้อนหลัง 3-6 เดือน เป็นภาษาอังกฤษ 
6. รายละเอียดการเดินทาง เช่น แพลนจะไปเมืองไหนบ้าง ไปทำอะไร ไปกับใคร จะพักที่ไหน ไปกี่วัน 
7. กรณีทำงานบริษัท ให้ขอหนังสือรับรองจากนายจ้าง ที่ระบุระยะเวลาการทำงาน เงินเดือน จำนวนวันที่ลา สลิปเงินเดือน 3-6 เดือนล่าสุด ถ้าเป็นเจ้าของกิจการก็เอาใบจดทะเบียนการค้าไปค่ะ
8. อื่นๆ พวกใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล, เอกสาร Invitation จากคนฝั่งเมกา ของกบให้แฟนเขียนว่าเค้ามีงานรับปริญญา ก็เลยเชิญเราไปร่วมงานค่ะ อันนี้ให้สแกนพาสปอร์ตของคนฝั่งเมกามาเผื่อด้วยนะ
9. บัตรประชาชนสำหรับฝากมือถือค่ะ 

ขั้นตอนเดินทางและเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์
- นั่งบีทีเอสไปลงเพลินจิต ต่อมอไซต์ 20 บาท ควรไปก่อนสัก 30 นาทีนะคะ
- สามารถเอากระเป๋าใบเล็กเข้าไปได้ ขนาด A4 ได้อยู่ค่ะ โทรศัพท์มือถือจะต้องฝากไว้ก่อนเข้าสถานทูตนะคะ
- ถ้าไปคนเดียวก็เอาหนังสือไปอ่านเล่นฆ่าเวลาได้นะคะ เพราะตอนรอคิว บางทีเจอช่วงที่ทัวร์ลง ก็นานเหมือนกันค่ะ
- เตรียมกระดาษเล็กๆกับปากกาไปเผื่อด้วยเค้าจะมีเลข ems ให้จด

เตรียมตัวเตรียมใจเรียบร้อย ถึงวันนัดหมาย ก็ออกเดินทางไปที่สถานทูตเลยจ้า
1. เมื่อมาถึงหน้าสถานทูต จะมีเจ้าหน้าที่ถามชื่อเรา เราก็ยื่น passport ให้เค้าไป เค้าก็จะเหมือนเชคชื่อเรา แล้วก็ส่งให้เดินต่อไปข้างใน

2. เป็นโซนฝากมือถือพร้อมบัตรประชาชน จะได้หมายเลขตู้มาค่ะ ของกบเหมือนสายข้อมือตู้นั้นหาย เลยได้เป็นกระดาษมาแทน ต้องเก็บรักษาไว้อย่างดีเลยค่ะ กลัวหาย 5555

3. ผ่านเครื่องสแกน เปิดประตูเลี้ยวซ้าย แล้วเดินเข้าไปข้างใน จะมีที่นั่งเยอะๆ กับคนต่อแถวอยู่ อันนี้เค้าจะต่อแถวตามคิวที่เจ้าหน้าที่ประกาศค่ะ เป็นรอบๆ เช่น 9:00-9:10, 9:30-9:40 

กบนั่งรอนานเลยค่ะ เพราะเค้าบอกว่าตอนเช้ามีทัวร์มาลงเป็นร้อยคน ทำให้คิวแบบเลื่อนเป็นชั่วโมงเลยค่ะ แต่ได้เจอชมพูอารยากับน้องสายฟ้าพายุด้วยแหละ ตัวสูงลิ่วเลยย

4. รอคิวหลังประกาศเรียกก็เตรียมเอกสารให้พร้อมยื่นให้เจ้าหน้าที่เลยค่ะ เค้าจะแปะหมายเลข EMS ไว้ให้เลย (ไม่เสียเงินเพิ่ม) แล้วก็เดินไปสู่ห้องถัดไปค่ะ

5. ห้องถัดไปจะเป็นเหมือนเค้าเตอร์แลกเงินค่ะ เราจะยืนต่อแถวยาวๆ ไม่มีการเข้าห้องต่อแต่อย่างใด 
ขั้นแรก ต่อแถวเพื่อเข้าช่อง 11-15 ก่อนค่ะ เค้าจะสแกนรูปเรา ของกบมีถามด้วยว่านี่ในรูปใส่บิ๊กอายหรือเปล่า นี่ก็แบบเปล่านะคะ คือเป็นคนตาโต ฮ่าา มีชวนคุยนิดหน่อย และสแกนนิ้วมือซ้ายขวาเรียบร้อยแล้ว
ขั้นสอง เดินไปสแกนนิ้วมืออีกทีที่ช่อง 10 ค่ะ
ขั้นสาม ต่อแถวรอเรียกที่ช่อง 6-9 เป็นการสัมภาษณ์กับคนต่างชาติของจริงแล้วค่ะ

ตอนกบต่อแถวอยู่ คือคนก่อนหน้ามีคนไม่ผ่านด้วยอ่ะ ถ้าคนผ่านก็จะไม่ได้รับ Passport กลับไปค่ะ ใจนี้เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เลยค่ะ

ถึงคิวกบแล้วว ก็ยื่น Passport ให้เจ้าหน้าที่ค่ะ
คำถามที่โดนถาม ไม่เกิน 5 คำถามค่ะ กบว่าอันนี้คือเพราะกบกรอกข้อมูล DS-160 ไว้ละเอียดแบบทั้งที่พัก เหตุผล อะไรพวกนี้ เค้าก็จะอ่านรายละเอียดตอนสัมภาษณ์เราค่ะ

บทสนทนานี่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ
------------------------------------------------------------

เจ้าหน้าที่ : ไปที่ไหน
กบ : จอร์เจียค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปกี่วัน
กบ : 17 วันค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปทำอะไร
กบ : ไปงานรับปริญญาแฟนค่ะ ที่ยูจอร์เจีย
เจ้าหน้าที่ : เคยไปเที่ยวที่ไหนบ้างนอกจากที่นี่ 
ตอนแรกได้ยินว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง ก็ตอบผิดไป เจ้าหน้าที่ก็ถามใหม่ค่ะ แบบเสียงเปลี่ยนไปนิด แต่เราก็ยิ้มสู้ 55  
กบ : สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เวียดนาม ไต้หวันค่ะ

----- แล้วเจ้าหน้าที่ก็จ้องคอม ดูเอกสารต่อค่ะ -----

ผ่านไปสักพัก เจ้าหน้าที่ก็เอาพาสปอร์ตเราไปไว้ที่ตะกร้าด้านหลังค่ะ พร้อมบอกว่า ยินดีด้วย คุณได้วีซ่าแล้ววว กบก็แบบ ขอบคุณค้าาาาาา เดินออกไปแบบหน้าแป้นแล้น เย่ๆ VISA จะส่งมาถึงบ้านภายใน 7 วันค่ะ 

ความรู้สึกในใจตอนนั้นคือ กรี้ดดด ่ผ่านแล้วว คือถามน้อยมากๆ รู้สึกว่าขอวีซ่าไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ถามไม่เยอะ แถมเอกสารที่เราเตรียมไปเค้าก็ไม่ดูเลย ดูแต่ในเวบ แต่อันนี้ก็ควรเอาไปเผื่อนะคะ ^^


สำหรับ Part 1 ขอ VISA USA ก็ขอจบแค่นี้ ถ้าใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามที่หน้าเพจได้เลยนะคะ พร้อมตอบเสมอออ 

Part หน้าจะมาต่อเรื่องตั๋วเครื่องบิน และการเดินทางสู่เมกาค่า

#KerotyInUS

0 ความคิดเห็น